รู้ได้อย่างไรว่าเสี่ยงเป็นโรคหัวใจการรู้ว่าคุณมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจหรือไม่นั้น สามารถพิจารณาได้จาก 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ปัจจัยเสี่ยง (Risk Factors) ที่มีอยู่ในตัวคุณ และ สัญญาณเตือน (Symptoms) ที่ร่างกายแสดงออกมา
1. ปัจจัยเสี่ยง (Risk Factors): ใครคือกลุ่มเสี่ยงสูง?
ปัจจัยเหล่านี้จะบ่งชี้ถึงโอกาสที่หัวใจและหลอดเลือดจะเกิดความเสียหายในอนาคต หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้หลายข้อ ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองกับแพทย์เป็นประจำ
กลุ่มปัจจัย รายละเอียดและระดับเสี่ยง
โรคประจำตัวเรื้อรัง (ควบคุมได้) ความเสี่ยงอันดับ 1: หากคุณเป็นโรค ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, หรือ ไขมันในเลือดสูง (LDL สูง/HDL ต่ำ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าควบคุมค่าเหล่านี้ได้ไม่ดี
พฤติกรรมเสี่ยง การสูบบุหรี่ (รวมถึงการสัมผัสควันบุหรี่มือสอง), การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, การขาดการออกกำลังกาย, การรับประทานอาหารเค็ม/มัน/หวานจัด
ปัจจัยทางกายภาพ ภาวะน้ำหนักเกิน/โรคอ้วน (โดยเฉพาะไขมันสะสมรอบเอว), ความเครียดสูงเรื้อรัง, การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ อายุ (ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป และผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป), ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ (โดยเฉพาะเป็นตั้งแต่อายุน้อย)
2. สัญญาณเตือน (Symptoms): อาการที่บ่งชี้ว่าหัวใจกำลังมีปัญหา
หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงร่วมกับมีอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวกับหัวใจขาดเลือดมักจะสัมพันธ์กับการออกแรง
อาการหลักที่ควรระวังที่สุด:
อาการ ลักษณะอาการที่น่าสงสัยว่าเป็นโรคหัวใจ
เจ็บแน่นหน้าอก (Angina) เจ็บแบบแน่น อึดอัด เหมือนมีของหนักมาทับ หรือรู้สึกบีบรัดบริเวณกลางหน้าอกหรือด้านซ้าย
อาการร้าว เจ็บร้าวไปที่ แขนซ้าย (พบบ่อยที่สุด), หัวไหล่, กราม, คอ, หรือบริเวณลิ้นปี่
ความสัมพันธ์กับการออกแรง อาการจะเกิดขึ้นหรือเป็นมากขึ้นเมื่อออกแรง เช่น เดินเร็ว เดินขึ้นบันได หรือออกกำลังกาย และจะดีขึ้นเมื่อหยุดพัก (ในระยะเริ่มแรก)
เหนื่อยหอบผิดปกติ เหนื่อยง่ายผิดปกติจากกิจกรรมที่เคยทำได้สบาย, หายใจถี่/หอบ, หรือมีอาการหอบเหนื่อยเมื่อ นอนราบ
ใจสั่นผิดปกติ รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วเกินไป เต้นสะดุด เต้นไม่สม่ำเสมอ เต้นแรง หรือหัวใจวูบหวิว
อาการอื่น ๆ ที่ร่วมมา เหงื่อออกมากผิดปกติ, วิงเวียนศีรษะ, หน้ามืด, หรือเป็นลมหมดสติโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
3. วิธีการตรวจเพื่อยืนยันความเสี่ยง
หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงหรืออาการดังกล่าว การไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพหัวใจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการประเมินความเสี่ยง แพทย์อาจแนะนำการตรวจดังต่อไปนี้:
การตรวจเลือด: ตรวจหาระดับน้ำตาล ไขมัน (Cholesterol, LDL, HDL, Triglyceride) และค่าการทำงานของไต
การวัดความดันโลหิต: เพื่อยืนยันภาวะความดันโลหิตสูง
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG/ECG): ตรวจดูจังหวะการเต้นของหัวใจและความผิดปกติของไฟฟ้าหัวใจ
การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (EST - Exercise Stress Test): ให้ผู้ป่วยวิ่งบนสายพานหรือปั่นจักรยานพร้อมกับวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อดูว่าเมื่อหัวใจทำงานหนักขึ้น มีสัญญาณของการขาดเลือดหรือไม่
การตรวจหาแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ (CT Calcium Score): ตรวจหาปริมาณหินปูนที่เกาะอยู่ในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แม้ยังไม่มีอาการใด ๆ