อาหารบำรุงสมองผู้สูงวัย ให้ห่างไกลภาวะสมองเสื่อมปัจจุบันมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ป่วยด้วยภาวะสมองเสื่อม ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย อาหารบำรุงสมองผู้สูงวัย มีอะไรบ้างที่ช่วยให้ห่างไกลจากภาวะทางสมองเหล่านี้ได้
ภาวะสมองเสื่อม คืออะไร
ภาวะสมองเสื่อมในวัยผู้สูงอายุเป็นกลุ่มอาการที่มีความผิดปกติของการทำงานของสมอง ส่งผลให้ความสามารถทางสติปัญญาลดลง คิดหรือจำไม่ได้ มีอาการหลงลืม การใช้ภาษาผิดปกติ และพฤติกรรมรวมถึงอารมณ์เปลี่ยนไป ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยผู้สูงอายุมีโอกาสป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มมากขึ้นตามอายุ เช่น
คุณเคยกินอาหารเสริมบำรุงสมองหรือไม่
อายุมากกว่า 65 ปี อัตราการพบผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ร้อยละ 5-8
อายุมากกว่า 85 ปีขึ้นไป พบร้อยละ 30
อายุ 90 ปีขึ้นไป พบสูงถึงร้อยละ 50
ซึ่งอัตราการพบโรคสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การเลือกบริโภคอาหารให้เหมาะสม จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้
อาหารบำรุงสมองผู้สูงวัย
ลูกหลานหรือผู้ที่ต้องดูแลผู้สูงอายุควรใส่ใจดูแล เลือกอาหารบำรุงสมองผู้สูงวัยที่มีสารอาหารและวิตามินเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะสมองเสื่อม ได้แก่
1. วิตามินบี
การทำงานของระบบประสาทส่วนกลางของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณสารอาหารที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะวิตามินบี 6 และบี 12 ซึ่งเรามักพบว่าผู้สูงอายุจะขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุ จะดูดซึมวิตามินบี 12 จากอาหารได้ยากขึ้น การทำงานของสมองจึงได้รับผลกระทบ วิตามินบี 6 และ 12 พบมากในเนื้อสัตว์ ไข่และนมวิตามินบี 9 (โฟเลต) ที่มักจะพบในธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น นมถั่วเหลือง เต้าหู้
วิตามินบี ช่วยในเรื่องความจำป้องกันโรคสมองเสื่อม และช่วยบำรุงระบบประสาทอื่นๆ ของร่างกาย
ประโยชน์ของวิตามินบี : วิตามินบี เป็นสารที่ช่วยบำรุงประสาท ช่วยในเรื่องความทรงจำป้องกันโรคสมองเสื่อมและช่วยบำรุงระบบประสาทอื่นๆ ของร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ วิตามินบี 6 ยังช่วยเสริมการดูดซึมกรดอะมิโนซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของโปรตีนในการเสริมสร้างระบบประสาทและสมองให้แข็งแรง
2. โอเมกา 3
สามารถพบได้ในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาอินทรี ปลาจะละเม็ดขาว ปลาสำลี ปลากะพงขาว เป็นต้น
โอเมก้า 3 ช่วยในเรื่องความจำและลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ รวมทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจ ข้อต่อต่างๆ ได้อีกด้วย
ประโยชน์ของโอเมกา 3 : จากปลาทะเลน้ำลึกคือในเนื้อปลาเหล่านี้มีกรดไขมันจำเป็นในปริมาณที่มากพอที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับระบบประสาทและสมอง ช่วยในเรื่องความจำและลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจ ข้อต่อต่างๆ ได้อีกด้วย
3. กลุ่มต้านอนุมูลอิสระ
เช่น วิตามินซี วิตามินอี ได้แก่ อาหารจำพวกผักใบเขียวและผลไม้หลากสี ผลไม้รสเปรี้ยว โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่อุดมไปด้วยสารโพลิฟีนอล และสารฟลาโวนอยด์ ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ มีวิตามินบีรวมวิตามินอีและแร่ธาตุอื่นๆ ล้วนอยู่ในสารอาหารที่สามารถต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมในร่างกาย ช่วยให้สมองไม่เสื่อมเร็ว ป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น
ประโยชน์ของกลุ่มต้านอนุมูลอิสระ : สามารถช่วยป้องกันความเสื่อมในร่างกาย ช่วยให้สมองไม่เสื่อมเร็ว ป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทในฮิปโปแคมปัส ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อความทรงจำและยังมีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทในด้านการมองเห็น และในส่วนของผักใบเขียว เป็นอาหารที่กรดโฟลิกซึ่งมีสารที่ช่วยให้การบำรุงสมองและช่วยดูแลควบคุมอารมณ์ให้อยู่ภาวะปกติ
4. เลซิติน
เมื่อร่างกายได้รับสารเลซิตินจะเปลี่ยนเป็นสารที่ชื่อว่า “โคลีน” และสารโคลีนจะถูกสังเคราะห์โดยเซลล์ประสาทชื่อว่า “อะซิติลโดลีน” พบมากใน ไข่ไก่ นับเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทที่เรียกว่า อะเซทิลโคลีน นอกจากในไข่ไก่แล้วยังพบใน ถั่วเหลือง ถั่วลิสง, เมล็ดทานตะวัน, จมูกข้าวสาลี และข้าวโพดสีเหลือง
ประโยชน์ของโคลิน : คือจะทำหน้าที่สำคัญต่อการพัฒนาการทำงานของสมอง และความจำ
นอกจากนี้ การดื่ม “น้ำเปล่า” อย่างเพียงพอ ก็ช่วยให้เซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมถึงเซลล์สมองสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกเซลล์ในร่างกายจำเป็นต้องใช้น้ำ แถม 3 ใน 4 ของสมองคนเราก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบอีกด้วย ดังนั้นน้ำเปล่าจึงมีความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
อาหารที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยง
เมื่อทราบแหล่งอาหารที่บำรุงสมองสำหรับผู้สูงอายุไปแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบกลุ่มอาหารที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงด้วย
อาหารกลุ่มไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ ได้แก่ มันหมู มันไก่ เนย เนยเทียม ครีมเทียม มาการีน
อาหารกลุ่มไขมันอิ่มตัวจากพืช ได้แก่ กะทิ, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันมะพร้าว
อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาทิ ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มต่างๆ เพราะความหวานจะทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทำให้เซลล์ประสาทที่เชื่อมต่อไปสมองเกิดความเสียหาย หรือทำงานได้ไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลต่อสมองในที่สุด
อาหารที่มีไขมันสูงและของหวานต่างๆ แม้จะมีรสชาติอร่อยถูกปาก แต่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายด้านรวมทั้งทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมในอนาคตอีกด้วย
นอกจากการเลือกให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสมองแล้ว สิ่งที่ ไม่ควรละเลยอีกประการ คือ การบำรุงสมองผู้สูงวัยในด้านอื่นๆ เช่น การฝึกสมอง และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ออกกำลังกาย และกำลังสมอง ช่วยบำรุงสมอง ลดภาวะสมองเสื่อม
การส่งเสริมให้ผู้สูงวัยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่เข้าไปเลี้ยงสมองได้ รวมถึงการให้ผู้สูงอายุฝึกการทำสมาธิ ทำกิจกรรมที่พัฒนาสมอง เช่น การอ่านหนังสือ การคิดเลข จะช่วยทำให้สมองมีความผ่อนคลาย ซึ่งช่วยในการจดจำได้ดีขึ้น นอกจากนี้การพักผ่อนให้เพียงพอยังช่วยให้ลดภาวะความจำสั้นในผู้สูงอายุให้ลดน้อยลงได้